รู้วิธีใช้งานและเปิดประตูทางออกฉุกเฉินบนรถบัส

สารบัญเนื้อหาทั้งหมด

ในการเดินทางด้วยรถบัสเช่านั้นเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะทราบกันว่าในรถบัสจะมีประตูพิเศษอยู่หนึ่งประตูนั้นก็คือประตูทางออกฉุกเฉิน ที่เอาไว้ใช้สำหรับเหตุการณ์สุดวิสัยต่างๆ ซึ่งถือเป็นประตูที่ค่อนข้างจะมีลักษณะการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงดังนั้นในบทความนี้เราเลยจะมาให้ความรู้ถึงเรื่องวิธีการใช้ประตูทางออกฉุกเฉินบนรถบัส เพื่อไว้เป็นความรู้ในกรณีมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น

ทางออกฉุกเฉินบนรถบัส คืออะไร?

ทางออกฉุกเฉินบนรถบัสคือประตูบานหนึ่งที่เอาไว้ใช้สำหรับเกิดกรณีมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น ซึ่งตัวประตูจะมีขนาดที่เล็กกว่าประตูปกติทั่วไป โดยจะมีขนาดอยู่ที่สูงไม่น้อยกว่า 120 เซนติเมตร มีความกว้างไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร ประตูสามารถเปิดออกได้จากทั้งภายนอกและภายในตัวรถ

ซึ่งตัวประตูนี้จะต้องไม่มีการใช้กุญแจล็อคไว้ และจะต้องมีป้ายกำกับไว้ว่า “ประตูฉุกเฉิน (Exit)”  หรือสัญลักษณ์ของทางออกฉุกเฉินตามมาตรฐานสากล และตัวป้ายจะต้องมีลักษณะเป็นป้ายโคมไฟพื้นหลังสีขาว ซึ่งตัวโคมไฟจะต้องให้แสงสว่างพร้อมกับโคมไฟด้านหน้ารถ และที่ประตูจะต้องมีข้อความชี้แจงรายละเอียดวิธีการใช้งานติดอยู่ทั้งจากด้านนอกและด้านในตัวรถติดไว้

ทำไมรถบัสถึงต้องมีทางออกฉุกเฉิน

สาเหตุที่รถบัสมีทางออกฉุกเฉินนั้นก็เพราะว่าต้องเป็นไปตามข้อบัญญัติของกฎหมาย และมีเอาไว้สำหรับใช้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งนอกจากตามกฎหมายจะกำหนดให้บริการเช่ารถบัสมีทางออกฉุกเฉินแล้วยังจำเป็นจะต้องมีค้อนทุบและถังดับเพลิงไว้ประจำรถแต่ละคันอีกด้วย

ทางออกฉุกเฉินบนรถบัสเช่าอยู่ตรงไหน

ตำแหน่งของทางออกฉุกเฉินนั้นตามกฎของกรมการขนส่งทางบกได้มีการระบุไว้ว่า ตัวประตูทางออกฉุกเฉินนั้นจะต้องอยู่บริเวณด้านขวาของห้องโดยสารโดยจะอยู่บริเวณกลางตัวรถหรือค่อนไปทางด้านท้ายรถ ซึ่งจะต้องเป็นตำแหน่งที่ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ รวมไปถึงสัมภาระของผู้โดยสารเอง

เนื่องจากเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารของกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ทั้งนี้ทางกฎหมายยังมีการระบุไว้ด้วยว่าหากผู้ใดวางสิ่งของกีดขวางทางออกฉุกเฉินจะต้องเสียค่าปรับจำนวน 500 บาท

วิธีใช้งานประตูฉุกเฉินบนรถบัสเช่า

วิธีการใช้งานทางออกฉุกเฉินนั้นก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ บนรถบัสจะมี 3 สิ่งที่เอาไว้ดังนี้

1. ประตูทางออกฉุกเฉินบนรถบัส

ถือเป็นสิ่งแรกที่ควรมองหาในขณะอยู่บนรถบัส ซึ่งตัวประตูจะสามารถเปิดออกได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ และสามารถเปิดได้จากทางด้านนอกและด้านในตัวรถ และประตูจะต้องเปิดได้อย่างเต็มส่วนทั้งแบบกว้างและสูง

โดยส่วนใหญ่แล้วตัวประตูจะมีกล่องสีแดงที่จะมีคันโยกเอาไว้สำหรับเปิดประตู ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินให้ทำการเปิดตัวกล่องแดง ดึงคันโยกและผลักประตูออก ซึ่งทั้งนี้จะมีการติดคู่มือการใช้ไว้ที่ตำแหน่งประตูไว้สำหรับให้ผู้โดยสารที่นั่งใกล้ทางออกฉุกเฉินได้ทำการอ่านศึกษาข้อมูลก่อนเดินทาง

2.ถังดับเพลิง

ถังดับเพลิงถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะต้องมีติดรถบัสไว้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ถังดับเพลิงขนาด 2 ปอนด์ และจะมีทั้งหมด 2 จุดด้วยกัน ซึ่งในรถบางคันจะมีการติดตั้งไว้ที่ส่วนผนังทั้ง 2 ฝั่งรถ หรือบางคนจะติดตั้งไว้ใต้เบาะที่นั่ง

โดยวิธีใช้ก็คือใช้ตามหลักการทั่วไปคือ ดึง กด ปลด ส่าย ซึ่งจะถูกใช้ในกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ มีข้อควรระวังคือควรฉีดพ่นให้ทั่วจุดที่มีเพลิงโดยจะต้องห่างจากตัวเพลิงประมาณ 6-8 ฟุตเพื่อความปลอดภัย

3.ค้อนทุบ

ตัวค้อนทุบจะมีลักษณะเป็นด้ามจับสีแดง มีหัวเป็นเหล็กแหลมมักถูกติดตั้งไว้ที่ผนังของตัวรถในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ง่าย ซึ่งตัวค้อนนี้จะมีไว้สำหรับการทุบกระจกรถโดยเฉพาะเพื่อหลบหลีกออกมาจากตัวรถ

วิธีใช้ก็คือการใช้ส่วนหัวเหล็กกรีดตัวกระจกให้เป็นช่องจากนั้นให้ใช้ตัวปลายค้อนทุบตัวกระจกตามแนวรอยที่กรีดไว้ ตัวกระจกก็จะแตกออกอย่างง่ายดาย เนื่องจากตัวค้อนทุบเองได้มีการออกแบบมาใช้สำหรับทุบกระจกในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินอยู่แล้ว

ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง 3 สิ่งนี้ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้ใช้สำหรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น หากผู้ใดมีการหยิบใช้โดยไม่มีเหตุจำเป็นหรือขโมยจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย อาจมีโทษถูกปรับได้

ข้อควรปฏิบัติ เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินบนรถบัส

ซึ่งหากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นตัวพนักงานรถจะเป็นผู้ทำการดูแลและคอยช่วยเหลือในกรณีที่ต้องอพยพซึ่งวิธีการช่วยเหลือนั้นจะเป็นไปตามแนวทางการฝึกซ้อมที่กรมการขนส่งไประบุไว้ ซึ่งตัวผู้โดยสารเองควรจะปฏิบัติตามดังนี้

  1. ตั้งสติซึ่งถือสิ่งที่สำคัญที่สุดในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยต่างๆ โดยจะต้องไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป  และมองรอบๆ ตัวเพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์มองหาทางออกฉุกเฉิน หรือโทรแจ้งเหตุกับหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่าง กู้ภัย กรมตำรวจ จส.และช.จส. เป็นต้น
  2. ทิ้งสัมภาระต่างๆ ไว้บนรถ หรือหยิบไปแค่ของสำคัญเช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ บัตรประชาชน ควรทิ้งสัมภาระขนาดใหญ่ไว้ที่รถเพื่อความสะดวกในการอพยพ
  3. หลบหลีกทางประตูฉุกเฉินหรือช่องกระจก (ในกรณีที่ต้องมีการทุบกระจก) และค่อยๆ หลบออกทีละคนไม่แยกกันเพื่อความปลอดภัยของคนหมู่มาก โดยในขั้นตอนจะมีพนักงานรถคอยให้การช่วยเหลือเป็นผู้นำในการปฏิบัติ
  4. ออกจากตัวรถและไม่กลับเข้าใกล้ตัวรถอีก และรอจนทีมกู้ภัยเข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
  5. ในกรณีที่ท่านได้รับบาดเจ็บให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยและอธิบายอาการของท่านโดยละเอียด

สรุป

ประตูทางออกฉุกเฉินถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่รถบัสเช่าทุกคันจะต้องมีตามที่กฎหมายได้ระบุไว้ เพื่อถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไว้ใช้ในเหตุสุดวิสัยต่างๆ ซึ่งตัวประตูจะต้องมีขนาดสูงไม่น้อยกว่า 120 เซนติเมตร มีความกว้างไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร ซึ่งจะต้องเป็นประตูที่สามารถเปิดใช้งานได้สูงสุดตามความกว้างและความสูง พร้อมทั้งมีข้อความระบุวิธีการใช้งานไว้อย่างละเอียด

ดังนั้นสำหรับใครที่มีแพลนกำลังเดินทางด้วยรถบัสสิ่งแรกที่จะต้องทำเวลาขึ้นรถเลยก็คือมองหาประตูฉุกเฉิน มองหาถังดับเพลิง และค้อนทุบกระจกซึ่งหากรถบัสคันไหนไม่มี สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่กรมการขนส่งทางบก

สำหรับใครที่กำลังมองหาการเช่ารถบัสอยู่แนะนำที่ภัสสรชัยทัวร์ เรามีรถให้เลือกหลายประเภทและรถทุกคันมีอุปกรณ์ทางออกฉุกเฉินไว้อย่างครบครัน รวมทั้งยังมีการเทรนพนักงานขับรถเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสอบถามราคาค่าใช้จ่ายได้ที่ https://www.businthailand.com/ หรือโทร 02-537-8881

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *